Reader Comments

7 Super Useful Tips To Improve Sbothai

"Venus Hartman" (2019-03-11)


นักข่าวบาเซโลน่ารายงานว่า sbothai เว็บพนันบอลอันดับหนึ่งของไทยโปรโมชั่นฮอตบริการดีเยี่ยมคอพนันต้องยกนิ้วให้และข่าวที่ว่า
(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com) Roller coaster ride for Chinese stocks ends in positive territory By Asia Unhedged 19/08/2015 ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ของจีนเกิดการปั่นป่วนแรง ดัชนีราคาหุ้นอยู่ในอาการหกคะเมนตีลังกา
สืบเนื่องจากรายงานข่าวภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดี ทว่าปัจจัยที่พวกนักลงทุนรู้สึกวิตกกังวลมากที่สุด ยังคงเป็นเรื่องที่ว่ารัฐบาลทำท่าจะลดขนาดมาตรการช่วยเหลือพยุงตลาด
ในเมื่อสภาวการณ์ดูกระเตื้องมีเสถียรภาพมากขึ้นแล้วในระยะไม่กี่สัปดาห์หลังๆ มานี้ รัฐบาลจีนกำลังค้นพบความจริงว่า
เป็นเรื่องหนักหนาสาหัสมากที่พยายามจะเข้าไปควบคุมรถไฟเหาะซึ่งกำลังหกคะเมนตีลังกา เอเชียอันเฮดจ์ขอเสนอว่า
สิ่งดีที่สุดที่จะทำได้ก็คือเพียงแค่ประคองตัวไปตามการเคลื่อนที่ของมันเท่านั้น ดัชนีคอมโพสิตของตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ (Shanghai Stock Exchange Composite Index) เปิดการซื้อขายเมื่อวันพุธ (19 ส.ค.)
ด้วยอาการตกต่อเนื่องจากการดำดิ่ง 6% ของวันอังคาร (18 ส.ค.) โดยระหว่างการซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีสำคัญตัวนี้จมลึกลงไปอีกกว่า 5%
ทว่าพอถึงช่วงบ่ายกลับเห็นดัชนีสำคัญตัวนี้ฟื้นตัวดีดกลับขึ้นมาได้อย่างน่าตื่นใจ จนในตอนปิดการซื้อขายได้ขึ้นมาอยู่ในแดนบวก 1.2% ยืนอยู่ที่ระดับ 3,794
เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงที่มันเคยขึ้นไปสูงสุดในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เท่ากับได้หล่นฮวบลงมา 27% ทางด้านดัชนีคอมโพสิตของตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น (Shenzhen Stock Exchange Composite Index)
ในวันนั้นก็เพิ่มขึ้น 2.2% มาอยู่ที่ระดับ 2,222 (อะไรจะเฮี้ยนกันขนาดนี้ เลข 2 หมดทุกตัว!) ขณะที่ดัชนีราคาชิเน็กต์ (Chinext Price Index) ดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของพวกหุ้นมูลค่าราคาตลาดต่ำๆ
ก็ขยับขึ้นมา 2.7% อยู่ที่ 2,571 อย่างไรก็ตาม ดัชนีหุ้นฮั่งเส็ง (Hang Seng Index) ในฮ่องกง ตกลงมา 1.3% ยืนอยู่ที่ 23,168 ถึงตอนนี้ฮั่งเส็งซวนเซลงมาเท่ากับ 1.8% แล้วในปีนี้ การไหลรูดของวันอังคาร (18 ส.ค.)
ซึ่งถือว่าตกลงมามากที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์ ได้รับคำอธิบายว่าเนื่องมาจากตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ ปริมาณการขนส่งทางรถไฟ (rail freight volume) ของจีน
ซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้กิจกรรมทางเศรษฐกิจตัวหนึ่ง ไหลฮวบลง 10.9% ในเดือนกรกฎาคมเมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวของปีก่อน มาอยู่ที่ 278.89 ล้านตัน
เป็นการชี้ให้เห็นว่าอุปสงค์ความต้องการพวกสินค้าโภคภัณฑ์สำคัญๆ ดังเช่น ถ่านหิน และโลหะชนิดต่างๆ กำลังหล่นฮวบแรง
ทั้งนี้ตามข้อมูลตัวเลขที่มาจากคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ (National Development and Reform Commission หรือ NDRC) ซึ่งรายงานไว้ในเว็บไซต์ ShanghaiDaily.com (ดูรายละเอียดได้ที่ http://www.shanghaidaily.com/article/article_xinhua.aspx?id=298287) NDRC
ระบุด้วยว่า เมื่อคำนวณตลอดช่วง 7 เดือนแรกของปี 2015 ยอดปริมาณการขนส่งทางรถไฟได้ลดลง 10.2% มาอยู่ที่ 1,980 ล้านตัน เป็นการลดลงยิ่งขึ้นจากรอบ 6 เดือนแรกปีนี้ซึ่งได้ตกลงมา 10.1% ขณะเดียวกัน
ดัชนีดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (Purchasing Managers’ Index หรือ PMI) ของจีน ก็ถอยลงมาสู่จุดต่ำสุดในรอบ 5 เดือน โดยอยู่ที่ระดับ 50 จุดในเดือนกรกฎาคม เซถลาลงจากระดับ 50.2 ในเดือนมิถุนายน ทั้งนี้
ดัชนีตัวนี้หากสูงเกิน 50 ก็จะอ่านกันว่าเป็นการบ่งชี้ให้เห็นการขยายตัวของกิจกรรมเศรษฐกิจในช่วงต่อไป แต่ถ้าต่ำกว่า 50 ก็บ่งบอกถึงการหดตัว
ถึงแม้มีข้อมูลตัวเลขที่ประกาศออกมาอีกตัวหนึ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยกำลังเข้มแข็งมากขึ้น อันควรจะถือเป็นข่าวดีสำหรับเศรษฐกิจ
ทว่าตลาดเลือกที่จะมองแบบแง่ลบว่า ภาวะเช่นนี้ทำให้มีโอกาสลดลงที่รัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นทางการคลังเพิ่มเติมขึ้นอีก
และขณะที่เราไม่ได้เห็นกันเลยว่าในการแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นจีนช่วงนี้ ได้มีการอ้างอิงถึงเหตุการณ์ระเบิดใหญ่ที่ท่าเรือเมืองเทียนจิน
(เทียนสิน) ของจีน (ซึ่งอาจทำให้วงการประกันภัยต้องเสียหายกันหนักระหว่าง 1,000 ล้าน ถึง 1,500 ล้านดอลลาร์ทีเดียว) ว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่กำลังทำให้พวกนักลงทุนกังวลใจ
แต่ถึงไม่มีการอ้างถึง ข้อเท็จจริงก็ยังคงมีอยู่ว่าเทียนจินเป็นท่าเรือใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลกเมื่อวัดกันในเรื่องปริมาณสินค้าเข้าออก
และความเสียหายของท่าเรือแห่งนี้จะส่งผลกระทบกระเทือนต่อเศรษฐกิจจีนในรอบไตรมาสนี้ และในปีต่อๆ ไปขนาดไหน ยังคงเป็นคำถามที่จะต้องคอยเฝ้าติดตามหาคำตอบ อย่างไรก็ตาม
สิ่งที่นักลงทุนน่าจะรู้สึกกังวลมากที่สุด ก็คือรายงานในสัปดาห์ที่แล้วที่ว่า บรรษัทการเงินเพื่อหลักทรัพย์แห่งประเทศจีน (China Securities Finance Corporation หรือ CSF)
หน่วยงานของรัฐทำหน้าที่จัดหาสินเชื่อมาร์จินสำหรับซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งได้รับมอบหน้าที่เข้าซื้อหุ้นพยุงตลาด ในระหว่างที่ตลาดอยู่ในภาวะทรุดฮวบนั้น
จะลดการเข้าซื้อหุ้นลงเนื่องจากความปั่นป่วนผันผวนทำท่าสงบไปมากแล้ว
กระแสการคาดเดากันว่ารัฐบาลจะเริ่มต้นลดขนาดการสนับสนุนอย่างมากมายมโหฬารซึ่งให้แก่ตลาดหลักทรัพย์อยู่นี้เอง เป็นตัวเร่งให้พวกนักลงทุนเทขาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมื่อราคาหุ้นได้ดีดตัวกลับขึ้นมาระดับหนึ่งในช่วงไม่กี่สัปดาห์หลังมานี้แล้ว ซุน อี้ว์เกิน (Xun Yugen) นักวิเคราะห์อาวุโสของบริษัทหลักทรัพย์ไห่ถงซีเคียวริตีส์
(Haitong Securities) บอกกับซินหวา สำนักข่าวทางการของรัฐบาลจีนเมื่อวันพุธ (19 ส.ค.) (ดูรายละเอียดรายงานข่าวนี้ได้ที่ http://news.xinhuanet.com/english/2015-08/19/c_134534696.htm) เดี๋ยวก่อน ขอให้ถอยหลังตั้งหลักกันหน่อย
แล้วลองพิจารณาเรื่องนี้ให้ดี แม้กระทั่งรัฐบาลเองก็ยังกำลังรายงานว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนถูกโยกคลอนจากรายงานข่าวที่ว่ารัฐบาลอาจจะถอนพวกเงินทุนช่วยชีวิตตลาดหุ้นออกไป
โดยที่เมื่อวันศุกร์ (14 ส.ค.) ที่แล้ว บรรษัท CSF ยังคงออกมาแถลงว่า จะยังถือหุ้นที่ตนมีอยู่เอาไว้ และทำให้ตลาดมีเสถียรภาพในช่วงที่เกิดการผันผวนหนัก ครับ
แล้วพอความปั่นป่วนผันผวนกลับเพิ่มขึ้นอีก กระแสข่าวลือที่พูดกันในตลาดก็คือว่า มาตรการสนับสนุนของรัฐบาลกำลังกลับเข้ามาใหม่
และมีการกระพือข่าวนี้กันจนกระทั่งดัชนีหุ้นคอมโพสิตของเซี่ยงไฮ้เด้งขึ้นมาปิดในแดนบวก สำนักข่าวซินหวารายงานว่า การดีดตัวกลับในช่วงท้ายๆ ของวันพุธ (19 ส.ค.) เป็นการจุดประกายจาก
"การคาดเดากะเก็งเกี่ยวกับความสนับสนุนใหม่ๆ จากทางรัฐบาล เป็นต้นว่า การลดสัดส่วนการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่อง (reserve requirement ratio) ลงมาตามที่ได้มีการคาดหมายกัน" เอเชียอันเฮดจ์อ่านว่า
น้ำเสียงเช่นนี้ของสำนักข่าวทางการรัฐบาล ก็คล้ายๆ กับเป็นการยืนยันข่าวเรื่องนี้อยู่กลายๆ (จากคอลัมน์ Asia Unhedged ในเอเชียไทมส์) หมายเหตุผู้แปล
ตามรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์ ในวันศุกร์ (20 ส.ค.) ตลาดหลักทรัพย์ของจีนยังคงอยู่ในอาการผันผวนต่อไป โดยพวกดีลเลอร์บอกว่า หลังจากเปิดตลาดด้วยการตกลงไปกว่า 1%
แต่ต่อจากนั้นราคาหุ้นก็กลับกระเตื้องขึ้นมาบ้าง เนื่องจากกระแสคาดหมายกันว่ารัฐบาลจะออกมาตรการสนับสนุนหลักทรัพย์เพิ่มเติมขึ้นอีก ทั้งนี้ในช่วงพักเที่ยงวันศุกร์
ดัชนีหุ้นคอมโพสิตของตลาดเซี่ยงไฮ้ ยังลบอยู่ 0.40% ส่วนของตลาดเซินเจิ้น กลับบวกขึ้นมาได้ 0.37%